ใช้การกรอง

เดินหน้าลุยบุกรุกอุทยานฯ สิรินาถ และอุทยานฯทับลาน เตรียมส่ง จนท.ทวงคืนพื้นที่ ปลายต.ค.นี้

Created
วันพุธ, 17 ตุลาคม 2555
Created by
เดลินิวส์
Categories
ข่าว
 

“เริงชัย” เดินหน้าลุยบุกรุกอุทยานฯ สิรินาถ เตรียมส่ง จนท. 366 ทีมลงพื้นที่ทวงคืน 3,000ไร่ปลายต.ค.นี้

 

วันนี้ (17 ต.ค.) นายเริงชัย ประยูรเวช รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาการบุกรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า การแก้ปัญหาการบุกรุกอุทยานฯ สิรินาถนั้น  ในวันที่ 24-25 ต.ค.นี้ ตนจะเชิญหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่กรมอุทยานฯ ได้ตั้งขึ้นมาทั้งหมด  366 ชุดมาทำความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะหลักปฏิบัติทางกฎหมายที่จะเข้าดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ สิรินาถ  เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สู้กันด้วยเอกสารหลักฐานเป็นสำคัญจึงต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติงานโดยมีกฎหมายเป็นตัวรองรับอำนาจการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว จากนั้นจะฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประมาณ 1 สัปดาห์  ช่วงปลายเดือน ต.ค. เจ้าหน้าที่ชุดแรก 120 ชุดจะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบได้


นายเริงชัย กล่าวอีกว่า กรณีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาและ อ.นาดี จ. ปราจีนบุรีนั้น ก็ยังคงดำเนินนโยบายเดิมของนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งขณะนี้คดีที่เตรียมรื้อถอนยังอยู่ในชั้นศาลปกครอง 22 ราย หากศาลพิจารณาไม่คุ้มครอง ก็จะให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ รื้อถอนทันที แต่ถ้ามีขนาดสิ่งปลูกสร้างและพื้นที่เกินความสามารถรื้อถอนของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลาน ก็จะส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้าไปรื้อถอนร่วมกัน


ทั้งนี้นายเริงชัย ยังกล่าวถึงกรณีความล่าช้าในการแต่งตั้งอธิบดีกรมอุทยานฯว่า ยอมรับว่าข้าราชการในกรมอุทยานฯ  บางส่วนเริ่มไม่แน่ใจในนโยบายของกรมอุทยานฯ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด  แต่ยืนยันว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ก็ตามคงต้องดำเนินนโยบายแบบเดิม และข้าราชการมีความยินดีและสามารถปฏิบัติงานร่วมกับอธิบดีได้ทุกคน
ด้านนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดทำแฟ้มข้อมูลรายละเอียดพื้นที่ทั้ง 366 แปลง เนื้อที่กว่า 3,000 ไร่เรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทั้ง 16 แห่งทั่วประเทศของกรมอุทยานฯ   ไปดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละสำนักฯ จับสลากเลือกแปลงบุกรุกที่ต้องรับผิดชอบกันเองแล้ว   ทั้งนี้แต่ละสำนักฯ จะรับผิดชอบพื้นที่โดยเฉลี่ย 17-61 แปลงตามขนาดเนื้อที่  โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ รับไปดำเนินการมากที่สุด 61 แปลง  โดยเป้าหมายหลักจะอยู่บริเวณหาดในทอน หาดไม้ขาว  เชิงทะเล หาดในยาง เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดแรก 120 ชุดนั้น จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย หลังจากนั้นชุดที่ 2 และ 3 ก็จะทยอยเข้าพื้นที่ตามลำดับ  จากนั้นแต่ละทีมจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน ในการเปรียบเทียบข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศและเอกสารที่ดินที่เกี่ยวข้อง


นายชีวะภาพ กล่าวต่อว่า  คาดว่าภายใน 1 เดือน จะสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกได้และจะทยอยดำเนินคดีจนกว่าจะครบทั้ง 366 แปลง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นทีเกษตรกรรม พื้นที่รกร้างว่างเปล่า และบางส่วนเป็นผืนป่าที่มีสภาพสมบูรณ์แต่ถูกนำไปออกโฉนด  ส่วนที่เหลือเป็นบ้านพักตากอากาศและโรงแรมขนาดกลาง 3-4 แห่งเท่านั้น   ส่วนคดีทั้งหมดจะขึ้นสู่การพิจารณาของศาลได้เมื่อไร ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนเพราะเอกสารที่เกี่ยวข้องมีมาก  ทั้งนี้สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการกับโรงแรม รีสอร์ทหรู 14 แห่งมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทนั้น  ได้แจ้งความดำเนินคดีไป 11 แปลงแล้ว ส่วนอีก 3 แปลงอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร


ด้านนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวว่า  จากการติดตามความคืบหน้าการรื้อถอนบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทในส่วนอาคารที่เหลือ  ซึ่งก่อนเกษียณอายุราชการเมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมานายดำรงค์เตรียมเข้าไปรื้อถอนให้จบนั้น  แต่เจ้าของรีสอร์ทแจ้งมาว่าจะขอรื้อถอนและเคลื่อนย้ายทรัพย์สินที่เหลือออกไปเอง อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้พบว่ายังไม่รื้อถอนอาคารในส่วนที่เหลือออกไป ซึ่งตนกำลังเตรียมหารือกรมอุทยานฯ เพื่อให้บังคับคดีให้เจ้าของรีสอร์ทยอมออกไปจากพื้นที่  ทั้งนี้กระบวนการบังคับคดีและเจ้าของรีสอร์ทต้องส่งมอบพื้นที่ให้อุทยานฯ สิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2550-2551 ซึ่งเจ้าทุกข์คืออุทยานฯ ทับลานก็ได้รับมอบพื้นที่ไว้หมดแล้ว  แต่จนถึงขณะนี้เจ้าของรีสอร์ทก็ยังไม่ยอมออกไปจากพื้นที่ ดังนั้นจึงจะหารือกับทางฝ่ายกฎหมายของกรมอุทยานฯว่าจะต้องรื้อฟื้นการบังคับคดีขึ้นมาใหม่หรือไม่ และจะต้องดำเนินการอย่างไร.

 

 

เดลินิวส์ วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2555