ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวที่มีศักยภาพของไทย เป็นตลาดใหญ่ที่สุดลำดับที่ 5 มีปริมาณการส่งออก 174,932 ตัน คิดเป็นมูลค่า 158.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และชาวฮ่องกงนิยมบริโภคข้าวหอมมะลิใหม่ (New Crop) คิดเป็น80%และมีอัตราการบริโภคข้าวเฉลี่ย 44 กิโลกรัม/คน/ปี โดยฮ่องกงนำเข้าข้าวหอมมะลิมากที่สุดจากไทยเป็นลำดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกซื้อข้าวคือ ชนิด คุณภาพ และรสชาติ
ล่าสุดพาณิชย์เดินหน้าเร่งรัดการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญของไทยอย่างข้าวหอมมะลิ ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ยกทีมผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ในฮ่องกง 34 ราย เดินทางเยือนประเทศไทยในระหว่างวันที่ 21 – 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากระทรวงพาณิชย์เดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออกโดยการใช้กลยุทธ์ผลักดันการส่งออกเชิงรุกนำคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเยือนไทย และส่งเสริมการขายข้าวในฮ่องกง รวมทั้งการส่งเสริม Soft Power พร้อมดำเนินโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ข้าวไทยผ่านร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในตลาดฮ่องกงโดยดาราชื่อดังและผู้มีอิทธิพลทางความคิด (KOL) ด้วยความร่วมมือระหว่างกรมการค้าต่างประเทศและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ดำเนินโครงการกระชับความสัมพันธ์และรณรงค์สร้างการรับรู้ในศักยภาพข้าวไทยเพื่อขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ
รวมทั้งส่งเสริมและสร้างการรับรู้สัญลักษณ์ข้าวไทยสีเขียว (Thai Hom Mali Rice Certification Mark) เพื่อสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นต่อชาวฮ่องกงว่าตราสัญลักษณ์ข้าวไทยบนบรรจุภัณฑ์แสดงว่าข้าวได้รับการบรรจุในประเทศไทย และสามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพมาตรฐานระดับสูง
“เบื้องต้นจะมีปริมาณการซื้อขายครั้งนี้ 81,200 ตัน มูลค่าการค้าไม่น้อยกว่า 2,700 ล้านบาท โดยเป็นโอกาสและช่วงเวลาที่ดีในการเจรจาการค้ากับผู้ส่งออกข้าวไทยเพื่อรองรับความต้องการบริโภคข้าวของชาวฮ่องกงในปี 2566 ดังนั้นคาดว่าสถานการณ์การค้าข้าวในปี 2566 ระหว่างไทย-ฮ่องกงจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะฮ่องกงได้เปิดให้มีนักท่องเที่ยวและการบริโภคจะกลับมาสู่ภาวะก่อนเกิดโควิด”
ด้านนางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กล่าวว่ารัฐบาลฮ่องกงผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และเปิดให้มีการเดินทางเข้า-ออกฮ่องกงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ประกอบกับผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง (Mr. John Lee Ka Chiu) ได้นำคณะนักธุรกิจฮ่องกงเดินทางเยือนประเทศไทยในช่วงการประชุม APEC ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวไทยในฮ่องกง การพบปะเจรจากับผู้ส่งออกไทยและการประชุมร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย (TREA) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าและสถานการณ์การค้าข้าวระหว่างกันจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีระหว่างสองฝ่ายในการเจรจาซื้อซื้อขายข้าวไทย
นางสาวสิริบุษย์ อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการกองบริหารการค้าข้าว กรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่าผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงได้แสดงความสนใจข้าวเพื่อสุขภาพอย่างมากโดยเฉพาะข้าว กข 43 (RD 43) ซึ่งเป็นข้าวขาวที่มีความนุ่ม มีค่าดัชนีน้ำตาลในระดับปานกลาง-ต่ำ และข้าว Riceberry ที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพ โดยผู้นำเข้าแจ้งว่าตลาดข้าวเพื่อสุขภาพมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเทรนด์การรักษาสุขภาพทำสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวฮ่องกงที่มีกำลังซื้อสูงได้
ที่มา คอลัมน์การค้า การเกษตร ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล /30 พ.ย. 2565