"อาเซียนโปแตช" จับมือเบลารุส พัฒนาเหมืองแร่ใต้ดินที่ชัยภูมิ

Created
วันอาทิตย์, 06 พฤศจิกายน 2559
Created by
กรุงเทพธุรกิจ
Categories
ข่าว
 

potas

 

โปแตชชัยภูมิ ดึงเบลารุสขุดเหมือง พร้อมเป็นตัวแทนส่งออกปุ๋ยไปเอเชีย

นายสมัย ลี้สกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2559 บริษัทอาเซียนโปแตชฯในฐานะผู้ดำเนินกิจการเหมืองแร่โพแทช อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (Signing Crermony Cooperative Agreement) กับทางบริษัท เบลารุสคาลิ (BELARUSKALI ประเทศเบลารุส) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกแร่โพแทชนานกว่า 100 ปี โดยมีมูลค่าการส่งออกแร่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยปริมาณ 12 ล้านตันต่อปี และส่งมาไทยปริมาณ 2-3 แสนตัน/ปี ทั้งนี้ยังได้เซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท EROCSPLAN ประเทศเยอรมนี โดย 2 รายนี้จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่เหมืองใต้ดิน ฝึกอบรมและทำการตลาด ด้วยมูลค่าการพัฒนาร่วมกัน 23,000 ล้านบาท

 

ภายใต้ข้อตกลงมีระยะเวลา 8 ปี โดยใน 3 ปีแรก ทั้ง BELARUSKALI และ EROCSPLAN จะส่งพนักงานมาประจำที่ไทยก่อน 6 เดือน เพื่อพัฒนาระบบการขุดเจาะเหมือง จากนั้นจะเริ่มส่งวิศวกรระดับสูงชุดแรก บินไปดูงานเรียนรู้ด้านเทคนิคที่เบลารุส 3-6 เดือนจากนั้นจะส่งพนักงาน 200 คน ไปฝึกอบรมศึกษางานทั้งหมดเกี่ยวกับระบบการทำเหมืองใต้ดิน อีก 1-2 ปี

 

ซึ่งจะพอดีกับระยะเวลาที่กำหนดเปิดขุดเหมืองในปี 2561 ทั้งนี้ ไทยยังไม่เคยมีการทำเหมืองใต้ดินมาก่อน จึงต้องส่งผู้เชี่ยวชาญไปเรียนรู้ทั้ง 2 ประเทศ

 

ส่วนข้อตกลงช่วง 5 ปีหลังจากนี้จะเป็นความร่วมมือด้านการดำเนินงาน และบริษัทอาเซียนโปแตชฯจะเป็นตัวแทนผู้นำเข้าแร่โพแทช และส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในเอเชีย อาทิ กัมพูชา ลาว เมียนมา ศรีลังกา เป็นต้น โดย BELARUSKALI และ EROCSPLAN เป็นผู้หาตลาดให้ ขณะเดียวกันโอกาสและศักยภาพของไทยที่จะเป็นแหล่งผลิตแร่โพแทชรายใหญ่ และผลิตปุ๋ยได้ปริมาณมากที่สุดในอาเซียน เพราะเป็นที่ทราบกันว่าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย พบปริมาณแร่โพแทชปะปนและแทรกอยู่ในชั้นดินจำนวนมาก

 

นอกจากนี้บริษัทกำลังเจรจาพาร์ตเนอร์ไทยรายใหม่ คือ บริษัท สหกลอีควิปเมนท์ (เอ็นจีเนียริ่ง) จำกัด (SQ) เพื่อเตรียมให้มารับช่วงต่อบริษัท BELARUSKALI และ EROCSPLAN หลังจากหมดสัญญา 8 ปีไปแล้ว ทั้งนี้ SQ เป็นบริษัทรับเหมาขุดเจาะเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดของไทย ให้กับโรงไฟฟ้าแม่เมาะของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงไฟฟ้าหงสา สปป.ลาว

สำหรับความคืบหน้าโครงการขุดเจาะเหมืองแร่โพแทชที่ จ.ชัยภูมิ นับตั้งแต่ได้ประทานบัตร เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2558 ครอบคลุมพื้นที่ 9,700 ไร่ มีอายุประทานบัตร 25 ปี (2559-2561) มูลค่าลงทุน 40,000 ล้านบาท และเริ่มขุดด้วยวิธีห้องสลับเสาค้ำยัน แต่งแร่ด้วยวิธีการตกผลึกร้อน สามารถผลิตปุ๋ยโพแทชเซียมคลอไรด์ ได้ปี 2562 ประมาณ 1.1 ล้านตันต่อปี มูลค่า 10,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อครบ 25 ปีจะผลิตปุ๋ยได้ 17.33 ล้านตัน

 

ขณะที่การตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อใช้ในเหมืองนั้น ล่าสุดผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และทำประชาพิจารณ์ผ่านเข้าสู่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้ว คาดว่าจะเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ แต่บริษัทได้เตรียมแผนสำรองว่าจะมีการซื้อไฟฟ้าจากรัฐบาล และใช้ไฟฟ้าจากบอยเลอร์ (หม้อต้มน้ำร้อน) แทนหากไม่ได้อีกทั้ง ได้ทำข้อมูลพื้นฐานเพื่อเก็บข้อมูลเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาในพื้นที่ชุมชน ประวัติการป่วยไว้ล่วงหน้าก่อนที่รัฐบาลจะกำหนดมาตรฐานออกมาใช้

 

"เราเดินมาถึงสเต็ปที่ 3 แล้ว คือปรับปรุงพื้นที่พัฒนาอุโมงค์ และเซ็นสัญญากับเบราลุส/เยอรมนี เหมืองเราเป็นรูปร่างเพราะทำตามกฎระเบียบทุกอย่าง ยอมรับว่าเรื่องการทำข้อมูลพื้นฐาน กฎหมายไม่ได้ระบุว่าต้องทำ อาจมีบางที่เหมืองละเลยไปบ้าง แต่ต้องทำให้เป็นบรรทัดฐานไว้ใช้เปรียบเทียบ หากอนาคตเหมืองหรือชุมชนเปลี่ยนแปลงเพราะแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็เป็นโรคอยู่แล้ว

ดังนั้นต้องเก็บข้อมูลให้รอบด้านทั้งหมด เรากล้าพูดว่าโพแทชจะเป็นแร่เศรษฐกิจของประเทศ และเชื่อว่าชุมชนมีความรู้ รับฟังประโยชน์มากกว่าคัดค้าน"

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 6 พ.ย. 2559