เดินหน้าสร้างระบบอาหารปลอดภัยครบวงจรที่นนทบุรี

Created
วันพฤหัสบดี, 18 ธันวาคม 2568
Created by
น้ำผึ้ง หัสถีธรรม
Categories
บทความ
 

ProjectAnouncementNonthaburi

มูลนิธิชีวิตไทร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดตัว "โครงการขับเคลื่อนระบบอาหารตลอดห่วงโซ่อย่างยั่งยืนและส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ"  ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อขับเคลื่อนระบบอาหารตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ภายใต้การสนับสนุนจาก สสส. โดยได้จัดเวทีชี้แจงโครงการที่วัดคลองขวาง ต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา 

ภาคีหน่วยงานและเครือข่ายที่เข้าร่วม ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาลัยบายศรีบ้านคลองขวาง, กลุมวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ ต.ราษฎร์นิยม, วัดคลองขวาง, โรงเรียนวัดคลองขวาง, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดคลองขวาง, สำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี, เทศบาลตำบลคลองขวาง, สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอไทรน้อย , มูลนิธิส่งเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ, โครงการเด็กไทยแก้มใส, สภานโยบายอาหารจังหวัดนนทบุรี, สภาองค์กรชุมชน และโครงการนำร่องฯ ระบบผู้ผลิตและตลาดเขียว เครือข่ายตลาดสีเขียว

ปัญหาร่วมของเกษตรกร: วังวนหนี้สินเกษตรกรจากการใช้สารเคมี

จากการพูดคุยแลกเปลี่ยน พบว่าเกษตรกรในจังหวัดนนทบุรีส่วนใหญ่ บนพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ กำลังทำนา "ข้าวแข็ง" เพื่อส่งขายให้กับโรงสีอุตสาหกรรม ทำให้สุดท้ายแล้ว พวกเขาต้องซื้อข้าวจากที่อื่นมากินเอง วงจรนี้ได้สร้างปัญหาที่หยั่งรากลึกและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง วงจรนี้สร้างความรู้สึกสิ้นหวัง หลายคนเชื่อว่าหากไม่พึ่งพาสารเคมี ก็ไม่อาจอยู่รอดได้ในระบบเกษตรกรรมปัจจุบัน ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างภาระทางการเงิน แต่ยังส่งผลกระทบที่มองไม่เห็นต่อไปยังสุขภาพของคนทั้งชุมชน

  • ต้นทุนสูง: ค่าใช้จ่ายหลักในการทำเกษตรกรรมมาจากปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ซึ่งเกษตรกรต้องพึ่งพาอย่างหนัก
  • หนี้สินเรื้อรัง: ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า เกษตรกรหนึ่งครัวเรือนมีหนี้สินเฉลี่ยสูงถึง 800,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่กู้ยืมมาเพื่อการลงทุนด้านการเกษตร
  • อนาคตที่ไม่ยั่งยืน: หากยังคงทำเกษตรด้วยวิธีเดิมต่อไป ก็จะยิ่งทำให้เกษตรกรจมอยู่ในวังวนของหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ปัญหาด้านสุขภาพ: สิ่งที่อาหารกำลังบอกเรา

ข้อมูลด้านสุขภาพของชาวนนทบุรีเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่า ระบบอาหารในปัจจุบันกำลังส่งผลกระทบต่อเราอย่างไร จากสถิติปี 2564 ของจังหวัดนนทบุรี พบอัตราการป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับอาหารสูง เช่น ความดันโลหิตสูง ประมาณ 100,000 คน และโรคเบาหวานประมาณ 55,000 คน 

จากการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคในปี 2566 ที่ชี้ให้เห็นถึงรากของปัญหา พฤติกรรมการกินที่ไม่สมดุลโดยประชาชนกว่า 80% นิยมบริโภคอาหารทอดและเครื่องดื่มรสหวานเป็นประจำ สาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ  อันดับหนึ่งคือ โรคหลอดเลือดสมอง ตามมาด้วย โรคหัวใจขาดเลือด  

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่ากังวลอื่นๆ ได้แก่ ประเด็น ความรอบรู้ด้านอาหารต่ำ จังหวัดนนทบุรีมีระดับความรอบรู้ด้านอาหาร ต่ำที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ รองจากกรุงเทพมหานครเท่านั้น  ทั้งหมดนำมาสู่ข้อสรุปเห็นความเชื่อมโยงที่ชัดเจน วิถีการผลิตและพฤติกรรมการเลือกกินอาหารในปัจจุบัน กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของคนในชุมชน

เส้นทางใหม่: โครงการขับเคลื่อนระบบอาหารตลอดห่วงโซ่ฯ จ.นนทบุรี

โครงการขับเคลื่อนระบบอาหารตลอดห่วงโซ่ ในพื้นที่นนทบุรีจึงได้เริ่มต้นขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาที่กล่าวมา เป็นทางออกที่ สร้างความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

แนวคิดหลักของโครงการฯ คือการทำงานตลอดทั้งห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่ "ต้นน้ำ" คือการช่วยเหลือเกษตรกรให้หลุดพ้นจากวังวนหนี้สินและการใช้สารเคมี ไปจนถึง "กลางน้ำ" คือการสร้างตลาดและการกระจายผลผลิตที่ปลอดภัย และ "ปลายน้ำ" คือผู้บริโภคทุกคนในชุมชน ที่เราจะร่วมกันสร้างความเข้าใจเรื่องอาหารเพื่อลดสถิติการเจ็บป่วยที่น่ากังวล โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ

  • พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร: เพื่อปลดเปลื้องเกษตรกรออกจากวังวนหนี้สินที่เราเห็น และคืนความภาคภูมิใจให้กับคนปลูกข้าวในนนทบุรี
  • ส่งเสริมความรอบรู้ด้านอาหาร: เพื่อยกระดับความรู้ความเข้าใจด้านอาหารของชุมชนให้หลุดพ้นจากอันดับรองสุดท้ายของประเทศ และสร้างพลังให้ทุกคนเลือกกินเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค: เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และเปลี่ยนสถิติที่น่ากังวลให้กลายเป็นสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน

เริ่มจากการเริ่มต้นที่เป็นรูปธรรม โดยโครงการนำร่องร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนที่นาจำนวน 22 ไร่ มาปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์ข้าวขาวเกยไชย) นี่คือก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยที่มาจากชุมชนเพื่อชุมชน 

แผนงานสู่การเปลี่ยนแปลงระบบอาหารทุกมิติ

  1. การผลิต: ส่งเสริมการปลูกผักและข้าวปลอดภัย

เป้าหมายสำคัญคือการสนับสนุนให้เกษตรกรเปลี่ยนผ่านจากการทำเกษตรเคมีไปสู่เกษตรอินทรีย์ โดยโครงการจะให้ความรู้และส่งเสริมทักษะการทำเกษตรปลอดภัย ทั้งในการปลูกข้าวและพืชผักสวนครัว

  1. การตลาด: สร้าง "ตลาดเขียว" แห่งใหม่ที่วัดคลองขวาง

ชุมชนมีเป้าหมายที่จะสร้าง "ตลาดเขียว" (Green Market) แห่งใหม่ขึ้นที่วัดคลองขวาง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางที่เกษตรกรสามารถนำผลผลิตที่ปลอดภัยมาจำหน่ายตรงถึงมือผู้บริโภคได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย

  1. การบริโภค: เชื่อมโยงอาหารปลอดภัยสู่โรงเรียนและชุมชน

เชื่อมโยงผลผลิตปลอดภัยไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน

  • นโยบายสนับสนุนจาก อบจ. นนทบุรี: องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีมีนโยบายรับซื้อผลผลิตปลอดภัย เช่น ข้าวและผัก เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในโครงการอาหารกลางวันสำหรับ โรงเรียนในสังกัด 5 แห่ง ซึ่งจะสร้างตลาดที่แน่นอนให้เกษตรกร และทำให้นักเรียนกว่า 1,500 คน ได้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
  • สร้างความรอบรู้ด้านอาหาร: โครงการจะจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านอาหารและโภชนาการให้กับทุกคน ตั้งแต่เด็กนักเรียนในโรงเรียนไปจนถึงผู้ใหญ่ในชุมชน

ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทั้งหมดถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาพื้นที่คลองขวางให้เป็น ชุมชนต้นแบบ ในการขับเคลื่อนระบบอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืน การที่จะเปลี่ยนหนี้สิน 800,000 บาทของเกษตรกรให้กลายเป็นความมั่นคง จากสถิติโรคภัยให้กลายเป็นสุขภาพที่ดีของลูกหลานเรา  เริ่มต้นจากดินที่ปลอดภัย ไปสู่จานอาหารที่สร้างสุขภาวะ และเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน