เกษตรไทย...ไปเออีซี เตือนภัยชาวนารายย่อย

Created
วันศุกร์, 04 กันยายน 2558
Created by
ไทยรัฐ
Categories
บทความ
 

โดย...ไชยรัตน์ ส้มฉุน

 

เหลือเวลาไม่ถึง 5 เดือน จะถึงวันเปิดประตูเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี...วันนี้ประเทศไทยพร้อมแค่ไหน ภาคผลิตเกษตรกรส่วนไหนน่าห่วงใยมากที่สุด

“ข้าว ไม่ใช่จะมีปัญหาเฉพาะแค่ในตลาดเออีซีเท่านั้น ในตลาดโลกก็จะมีปัญหาด้วย” รศ. ดร.บัญชา ขวัญยืน รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นด้วยความกังวล ห่วงใยในอนาคตชาวนาไทย

THF AEC1

จากพบปะเกษตรกรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยการเปิดโรงเรียนชาวนา ฝึกอบรมให้ความรู้กับชาวนามากกว่า 10 ปี พบว่า วันนี้ชาวนาไทยส่วนใหญ่ ยังเป็นได้แค่เพียงคนปลูกข้าวเท่านั้น ไม่ค่อยมีความรู้ในการเลือกสายพันธุ์ข้าว เหมาะสมจะปลูกที่ไหน อย่างไร การนำเทคโนโลยีมาใช้ยังไม่เก่ง ทำการตลาดไม่ได้

“ในอาเซียน เวียดนามกับพม่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว วันนี้พม่ามีการวางแผนขยายพื้นที่ชลประทานอย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมที่จะเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ให้เหมือนในอดีต ส่วนเวียดนามแทบไม่ต้องพูดถึง การส่งเสริมการปลูกข้าวทำได้ดีกว่าเรามาก มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ มีการตั้งหน่วยงานมาศึกษาวิจัยรับผิดชอบเรื่องนั้นเป็นการเฉพาะ ที่สำคัญรัฐบาลประกาศให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำอะไรจะทำจริง เพราะระบบการเมืองของเขาเป็นแบบสังคมนิยม รัฐบาลสามารถจัดการอะไรได้ง่ายกว่าเรา”

THF AEC2

หากประเทศไทยต้องการให้ ข้าวไทย ชาวนาไทย อยู่รอด รศ.ดร.บัญชา มองว่า รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องเน้นให้เกษตรกรปลูกข้าวคุณภาพ ที่ขายได้ราคาสูง เพื่อป้อนตลาดนิชมาร์เก็ต หรือตลาดเฉพาะอย่าง ข้าวออแกนิกส์ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวสังข์หยด ข้าวหอมมะลิ ฯลฯ

แต่ต้องไม่ใช่การส่งเสริมให้ปลูกแบบเหวี่ยงแห ให้ปลูกพร่ำเพรื่อไปทั่ว...จะต้องมีการกำหนดโซนนิ่งให้ชัดเจน ข้าวพันธุ์ไหนควรปลูกพื้นที่ไหน เพื่อจะได้ควบคุมทั้งคุณภาพและปริมาณให้เหมาะสมกับความ ต้องการของตลาด ผลผลิตจะได้ไม่ล้นตลาด ให้เป็นปัญหาต้องมาตามแก้กันอีก

THF AEC3

“และที่น่าห่วงที่สุด ทุกวันนี้บ้านเราปลูกข้าวกันเยอะมาก ได้ผลผลิตออกมาไม่รู้จะเอาไปขายใคร วันนี้หลายประเทศ ปลูกข้าวไม่พอกิน ได้หันมาเริ่มปลูกข้าวกันมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้าและสร้าง ความมั่นคงทางอาหาร เราจึงมีตลาดพอให้ไปขายได้ไม่กี่ประเทศ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง แม้แต่ตะวันออกกลาง ถึงจะไม่มีนาให้ปลูกข้าว แต่ได้มาเช่านาจ้างนายทุนไทยปลูกส่งข้าวไป ขายเขาโดยตรงมาหลายปีแล้ว อนาคตตลาดข้าวจะแคบไปเรื่อยๆ”

นอกจากนั้น ดร.บัญชา ยังบอกอีกว่า ผู้เชี่ยวชาญได้ทำนายอนาคตการทำนาของประเทศไทยจะเปลี่ยนไป จากปัจจุบันเกษตรกรรายย่อยเช่าที่นายทุนทำนา จะกลายเป็นนายทุนจะเอาที่นามาปลูกข้าวเป็นแปลงใหญ่ซะเอง ทำนาแบบฟาร์มแมชชีนเนอร์ โดยใช้เครื่องจักรกลทั้งหมด

THF AEC4

THF AEC5

“10 ปีข้างหน้า เกษตรกรรายเล็กจะอยู่รอดได้ ต้องทำนาผสมหรือไม่หันรวมกลุ่มกันทำนาร่วมกันแบบครบวงจร ปลูกเอง แปรรูปเอง และขายเอง ถ้าไม่ทำ ไม่รู้จักปรับตัวก็ต้องเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นแทน”

ส่วนที่ถามว่า ประเทศไทยพร้อมรับเออีซีไหม ดร.บัญชา ให้คำตอบ...ธุรกิจภาคเอกชนรายใหญ่ และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ที่ทำหน้าที่เจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีความพร้อมรู้ทุกเรื่อง

แต่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันนี้จะมีคนรู้เรื่องเออีซีสักกี่คน...ถ้าไม่เชื่อลองเรียกมาซักถามได้ รู้มากแค่ไหน (ถ้าไม่นับกรณีรู้ว่ามี 10 ประเทศ แต่ละประเทศมีธงแบบไหน)

ที่มา: ไทยรัฐ วันที่ 4 ก.ย. 2558